วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บอกเล่าประสบการณ์เกือบตาย



บอกเล่าประสบการณ์เกือบตาย

      วันที่ 17 ก.พ. 2558 เวลาประมาณ 10.00 น. นั่งรถไปทำงานเพื่อออกสำรวจพื้นที่ตามปกติ  เกิดความรู้สึกว่าหายใจผิดปกติคือเริ่มหายใจเร็วผิดปกติและมีอาการเหน็บชาบริเวณต้นคอด้านหลังแล้วเริ่มลามมาบริเวณหน้าอก  ไปที่ต้นแขน และลามลงไปที่ต้นขาจนกระทั้งเริ่มบังคับแขนขาตังเองไม่ได้ ปากก็เริ่มเบี้ยวและพูดเริ่มไม่ชัด หายใจเข้าออกยาวๆ แบบปกติไม่ได้  โชคดีตรงที่ถึงโรงพยาบาลได้เร็วประมาณ 5 นาที แต่พยาบาลก็ยังคงไม่ทำอะไรให้เรา  แค่ให้เรานอนบนเตียงแล้วก็บอกว่าให้พยามยามหายใจยาวๆ ช้าๆ ซึ่งผมก็ทำตามที่คุณพยาบาลบอกทุกอย่าง  สักพักอาการเริ่มดีขึ้น  แต่ก็ประมาณ 5 นาทีเห็นจะได้  แล้วที่นี้อาการเริ่มหนักกว่าเดิมอีกครับคือ ผมเริ่มหายใจเข้าได้แต่ไม่ยาวมานักแต่หายใจไม่ค่อยออกครับเหมือนหัวใจใกล้จะหยุดเต้นยังไงยังงั้น  แต่ผมยังมีสติดีอยู่จึงตะโกนเรียกพยาบาลบอกเขาว่าผมไม่ไหวแล้วหายใจไม่ออกแล้วครับ  ช่วยด้วย จากนั้นพยาบาลจึงตามหมอมาดูอาการผม  แล้วก็ทำอะไรก็ไม่รู้เพราะว่าตัวผมมันชาไปทั้งตัวแล้ว  แล้วสักพักอาการผมก็เริ่มดีขึ้น  อาการชาเริ่มคายตัว  เริ่มขยับแขน ขาได้  ปากก็เริ่มพูดได้จนกระทั้งเริ่มลุกนั่งได้  จนกระทั่งหายเป็นปกติ  แต่บังเอิญลืมถามหมอว่าสรุปแล้ว ผมเป็นโรคอะไรจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเราเป็นโรคอะไรกันแน่  แล้วนี่มันจะกลับมาเป็นอีกได้หรือป่าวก็ยังไม่รู้เลยครับ
      แต่เท่าที่สังเกตุตัวเองคือก่อนหน้านี้ผมนอนไม่ค่อยหลับมาประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆ  แบบว่าตื่นมาดูบอลด้วยนะครับแล้วก็กินกาแฟด้วย  หรืออาจจะเกิดจากการออกำลังกายหักโหมมากเกินไปคือเล่นฟุตบอลช่วงเย็นหนักมากแล้วไม่ได้ทานข้าวเย็นแถมตอนเช้ายังทานข้าวไปนิดเดียวเอง  ซึ่งอาจทำให้ร่ายกายเกิดอาการช๊อตแบบเฉียบพลันก็เป็นไปได้นะครับ(อันนี้ผมสรุปเอาเองนะครับ)
         จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆ  ว่าทำอะไรอยากหักโหมเกินความจำเป็นเดียวจะเป็นอย่างผมเอาได้นะครับ มันไม่คุ้มจริงๆ (ลืมบอกไป ผมอายุ 36 ปีแล้ว)  ถ้าอย่างไรอยากออกกำลังกายก็ให้เหมาสมต่อร่างกายก็แล้วกันนะครับ  โชคดีทุกท่านนะครับ  สุขภาพแข็งแรงไม่มีโรคภัยและห่างไกลจากโรคทุกคนนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น