1. สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ไม่ค่อยจะมีเวลาไปทำงานอย่างอื่นต้องทุ่มเทเวลาส่วนมากให้กับงานประจำ “ มีเงินมาก มีเวลาน้อย มีความสุขน้อย “ เพราะต้องทำงานที่ตัวเองอาจจะไม่ชอบทำแต่จำเป็นต้องทำ แต่ถ้าได้ทำงานในสิ่งที่ชอบก็คงโชคดีสุดๆ ครับ เพราะจะทำให้มีความสุขมาก
2. สำหรับชาวบ้านทั่วไป เช่น ชาวนา ชาวไร่ ( ได้ทำในสิ่งที่รักและถนัด จึงทำให้ มีความสุขมาก
มีเวลามาก แต่อาจมีเงินน้อยหรืออาจไม่ต้องมีเงินเลยก็ได้แต่ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ) ชาวบ้านมีภูมิปัญญาชาวบ้านอยู่แล้วสำหรับคนไทยเรา ผมเองก็เห็นมาตั้งแต่เล็ก เท่าที่จำได้ก็เช่น การเลี้ยงไก่เอาไว้กินไข่วิธีการก็คือ อาจจะหาพ่อแม่พันธุ์ไก่พื้นบ้านมาเลี้ยง 1 คู่ หลังจากนั้นก็เลี้ยงมันไปโดยธรรมชาติคือให้หากินเองคุ้ยเขี่ยหากินไปตามประสาไก่ กินไส้เดือนบ้าง หนอนบ้าง หรือไม่ก็ข้าวที่เรากินเหลือแบ่งให้ไก่กินบ้างสัก 1 หยิบมือ เลี้ยงไปได้สักพักครับก็จะได้ ผลพลอยได้จากไก่ เช่น 1. ขี้ไก่เอาไปทำปุ๋ย (ไม่ต้องซื้อ) ใส่ต้นไม้ พอต้นไม้โตก็ให้ผล (ไม่ต้องซื้อ) ต้นไม้เมื่อผลัดใบทับถมกันมากเข้าก็จะทำให้มีไส้เดือนซึ่งก็จะกับไปเป็นอาหารไก่(ไม่ต้องซื้อ) และเมื่อไก่โตก็จะออกไข่เป็นอาหารคน(ไม่ต้องซื้อ) แต่ถ้ากินไข่ไม่หมดก็ยังปล่อยฟักเลี้ยงเป็นลูกเจี๊ยบได้อีกซึ่งก็จะทำให้มีไก่เพิ่มมากขึ้นไปอีก และเมือ่มีไก่มากแล้วก็ยังนำมาเป็นอาหารได้อีกด้วยครับ เห็นหรือเปล่าครับว่าภูมิปัญญาชาวบ้านเรานี้แหละสุดยอดแล้วครับ เชื่อหรือไม่ครับซึ่งถ้เราลองมองดูคนสมัยก่อนสิครับว่าทำไมเขาถึงมีลูกได้เยอะโดยที่ไม่เดือดร้อนแถมยังเลี้ยงลูกและส่งลูกเรียนจบปริญญาได้ด้วยแต่เชื่อหรือไม่ครับว่าลูกที่เรียนจบปริญญาไม่สามารถเลี้ยงพ่อแม่ที่เรียนจบ ป.4ได้ ดูแล้วก็น่าเศร้าใจ จากข้อความที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จึงอยากให้คนไทยช่วยกัน ช่วยกัน ใครมีความคิดอะไรดีดี ช่วยกันคิด ช่วยกันสอน ช่วยกันบอกต่อเพือ่อนาคตของลูกหลานของเรา อย่าเลยครับ อย่าเลย อย่ามั่วแต่หาเงิน เงิน เงิน มันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงของชีวิตก็ได้ ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่า “ ความสุขที่แท้จริง คือความว่าง ” นี่คือปริศนาธรรม ขอให้ท่านทั้งหลายลองเอไปคิดดู สาธุ สาธุ สาธุ
